เมนู

เมนู

ยาชา และ ยาสลบ เลือกให้ถูกก่อนการทำศัลยกรรม

หลายคนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้ารับการทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็น การทำจมูก ตัดปีกจมูก หรือ เสริมคาง เป็นต้น อย่างเรื่องของการเลือกใช้ยาชาหรือยาสลบ ว่าตนเองนั้นควรเลือกใช้เทคนิคไหนดี เนื่องจากการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องที่มีความละเอียด ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากกระบวนการหรือขั้นตอนในการทำด้วยเช่นการ ซึ่งการเลือกใช้ยาชาหรือยาสลบยังเป็นประเด็นที่ผู้คนมักจะยังไม่ค่อยทราบรายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก บ้างก็บอกว่ายาชาดีกว่า บ้างกลัวการผ่าตัดจึงอยากใช้ยาสลบ แล้วแบบไหนจึงจะเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุด?

บทความต่อไปนี้จะเป็นบทความเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างยาชากับยาสลบที่กล่าวถึงความหมาย ความแตกต่าง ข้อดีและข้อด้อย ของยาชาและยาสลบในการทำศัลยกรรมเสริมความงาม โดยวิธีลดความเจ็บปวดขณะทำหัตถการจะมี 2 วิธีด้วยกันคือการใช้ยาชาและยาสลบ ดังนี้

ยาสลบ

ยาชา คืออะไร?

ยาชา คือ ยาสำหรับใช้เพื่อให้ผู้ป่วยหมดความรู้สึก ความเจ็บปวด ไม่สามารถรับรู้ถึงการสัมผัส หรืออุณหภูมิร้อนเย็นที่เปลี่ยนไปได้ รวมถึงอาจขยับร่างกายไม่ได้ ตัวยาชาจะออกฤทธิ์เข้าไปขัดขวางการส่งกระแสประสาทของร่างกายไปยังเยื่อหุ้มประสาทบริเวณที่ให้ยาชา มี 2 ประเภท ได้แก่ ยาชาเฉพาะจุด (Local Anesthesia) และยาชาเฉพาะบริเวณ (Regional Anesthesia) 

ยาชาเฉพาะจุด (Local Anesthesia)

ยาชาแบบนี้จะใช้ในการผ่าตัดเล็ก ๆ โดยยาชาสามารถเข้าถึงเส้นประสาทได้ง่ายด้วยการหยอด พ่นสเปรย์ ทาหรือฉีด โดยคนไข้จะรู้สึกตัว แต่ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด ตัวอย่างทั่วไปของการศัลกรรมโดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ได้แก่ การทำตา ทำจมูก ทำปากกระจับ ทำคาง ดูดไขมัน เป็นต้น

ยาชาเฉพาะบริเวณ (Regional Anesthesia)

เป็นการฉีดยาชาเฉพาะที่ โดยทำการฉีดบริเวณเส้นประสาทที่สำคัญหรือไขสันหลัง เพื่อป้องกันความเจ็บปวดจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา การฉีดยาชาเฉพาะบริเวณจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดหลังการผ่าตัด เนื่องจากยาชาอาจออกฤทธิ์นาน 8 ถึง 12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดยา ซึ่งยาชาสามารถลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวดหลังการผ่าตัด รวมทั้งผลข้างเคียงอื่น ๆ ของการผ่าตัด เช่น อาการคลื่นไส้ 

ข้อดีของการใช้ยาชา

  • ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
  • หลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ
  • ค่าใช้จ่ายน้อย
  • ปลอดภัยสำหรับคนไข้ที่มีโรคประจำตัวมาก

ข้อด้อยของการใช้ยาชา

  • คนไข้รู้สึกตัวระหว่างผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับการทำหัตถการขนาดเล็ก หรือเฉพาะจุดเล็ก ๆ
  • มีความรู้สึกเจ็บขณะที่ฉีดยาชา

ยาสลบ คืออะไร?

การใช้ยาสลบเป็นการรวมกันของยาที่ทำให้คนไข้หลับก่อนการผ่าตัดหรือการทำหัตถการอื่น ๆ ภายใต้การดมยาสลบ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเพราะหมดสติไปโดยสมบูรณ์ การดมยาสลบมักใช้ยาทางหลอดเลือดดำร่วมกับก๊าซที่สูดดม (ยาชา) 

โดยผู้ที่ทำการวางยาสลบคือวิสัญญีแพทย์ เป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวางยาสลบ วิสัญญีแพทย์จะคอยอยู่ควบคุมดูแลอาการของคนไข้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าให้คนไข้ได้รับยาสลบอย่างต่อเนื่อง และจะไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในระหว่างการผ่าตัด โดยจะมีการวัดสัญญาณชีพตลอดการผ่าตัด เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ และความดันเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้มีความปลอดภัยในระหว่างการผ่าตัด ซึ่งการใช้ยาสลบเหมาะสำหรับการทำศัลยกรรมใหญ่ที่ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดนานและต้องเสียเลือดมาก อย่างเช่น การเสริมหน้าอก ผ่าตัดหน้าอก แปลงเพศ เสริมสะโพก ยกกระชับหน้าท้อง ผ่าตัดโครงหน้า เป็นต้น

ข้อดีของการใช้ยาสลบ

  • ไม่รู้สึกเจ็บขณะทำหัตถการหรือการผ่าตัด
  • เหมาะสำหรับคนไข้ที่ทำศัลยกรรมหลาย ๆ อย่างในครั้งเดียว
  • มีวิสัญญีแพทย์จะคอยอยู่ควบคุมดูแลอาการของคนไข้อย่างใกล้ชิด

ข้อด้อยของการใช้ยาสลบ

  • ต้องมีการงดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดศัลยกรรม
  • มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงการใช้ยาสลบ เช่น ง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่มีแรง สับสน มึนงง หนาวสั่น อาจเกิดขึ้นชั่วขณะ หรือยาวนานหลายนาที ไปจนหลายชั่วโมง เป็นต้น
  • มีระยะการพักฟื้นนาน เนื่องจากต้องพักดูแลหลังใช้ยาสลบ
  • ค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวางยาสลบ นั่นก็คือ วิสัญญีแพทย์

สรุปความแตกต่างระหว่างยาชาและยาสลบ

  • ยาชา คือ การทำให้ชาเฉพาะจุดหรือบริเวณที่ต้องการ ใช้เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ไม่สามารถรับรู้ถึงการสัมผัส แต่ยาสลบจะทำให้หลับ ไม่รู้สึกตัว โดยจะมีการฉีดยาแก้ปวดร่วมด้วย
  • ยาชา จะเหมาะสำหรับการผ่าตัดขนาดเล็กเฉพาะที่ เช่น การทำตา ทำจมูก ทำปากกระจับ ทำคาง ดูดไขมัน เป็นต้น ส่วนยาสลบเหมาะสำหรับการผ่าตัดใหญ่ศัลกรรมขนาดใหญ่ โดยมีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดูแล เช่น การเสริมหน้าอก ผ่าตัดหน้าอก แปลงเพศ เสริมสะโพก ยกกระชับหน้าท้อง ผ่าตัดโครงหน้า เป็นต้น
  • ยาชา คือ การฉีดไปที่บริเวณ หรือ จุดที่ทำ แต่ยาสลบจะต้องฉีดเข้าเส้นเลือดหรือดมยา
  • ยาชา อาจจะทำให้รู้สึกเจ็บขณะฉีดและระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ ส่วนยาสลบ อาจจะตื่นมาพบมีอาการมึน เวียนศีรษะ หรือบางรายอาจคลื่นไส้อาเจียน แต่แพทย์สามารถป้องกันได้โดยการตรวจร่างกาย
  • ยาชามีราคาที่ย่อมเยาว์กว่า เพราะสามารถทำได้โดยแพทย์ แต่ยาสลบต้องใช้วิสัญญีแพทย์เข้ามาดูแล จึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการใช้ยาชามาก

ปัจจุบันคนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ยาชาหรือ ยาสลบ แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ว่าร่างกายของคนไข้และประเภทการผ่าตัดเหมาะที่จะทำการฉีดยาประเภทใด โดยแพทย์จะทำการประเมินอย่างละเอียดเพื่อให้คนไข้ปลอดภัยที่สุด ที่ ELITE CLINIC อีลีท คลินิก คลินิกลาดพร้าว มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ทางด้านความงามในการปรับรูปหน้าอย่างครบวงจร โดยเฉพาะ เสริมจมูกผู้ชาย มีเทคนิคและเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำทั้งการเสริมจมูก รวมไปถึงการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ท่านสามารถเข้าไปดูเคส รีวิวเสริมจมูก ได้ที่เว็บไซต์ คลีนิกเสริมจมูก ของเราได้ที่ eliteclinicthailand.com