แนะนำ

เติมวิตามินดริปผิวฉบับเร่งด่วนต้อง Vitamin IV Drip ที่ Elite Clinic

        รู้หรือไม่? ว่าการรับประทานวิตามินหรือการทาครีมบำรุงผิวต่างๆ นั้น ร่างกายของคุณสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้เพียง 20-40 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นเหตุผลให้คุณต้องกินหรือทาวิตามินอยู่เป็นประจำในระยะเวลานานๆ จึงจะเห็นผล ในขณะที่การทำ วิตามินดริปผิว หรือ Vitamin IV Drip ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้เลยทันที 100% จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเซเลบฯ ดารา หรือเหล่าบล็อกเกอร์ และ Influencer ต่างๆ หันมานิยมในการบำรุงผิวพรรณแบบเร่งด่วนด้วยวิธีนี้เป็นจำนวนมาก

 

Vitamin IV Drip คืออะไร?

การทำ วิตามินดริปผิว หรือเรียกสั้นๆ ได้ว่า IV Drip คือการให้วิตามินหรือสารอาหารผ่านทางสายน้ำเกลือ ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วระดับเซลล์แบบ 100% ได้รับการขนานนามว่าเป็นการรักษาทุกอย่าง ตั้งแต่ความเหนื่อยล้าไปจนถึงรักษาผิวที่เสื่อมสภาพ เป็นวิธีการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการรับวิตามินที่จำเป็นเข้าสู่เซลล์ร่างกายของมนุษย์ และสามารถให้วิตามินที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นในคราวเดียวได้

นอกจากนั้นการทำ วิตามินดริปผิว หรือ IV Drip นั้นยังช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการรับประทานวิตามินแบบปกติอาจทำให้เกิดแก๊สหรือปวดกระเพาะ ในกรณีที่รับประทานวิตามินจำพวกกรดอะมิโนแอซิดหรือวิตามินซี ที่ต้องผ่านเข้าสู่ทางเดินอาหารจนทำให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านั้น ที่สำคัญคือ Vitamin IV Drip ยังเป็นมากกว่าเทรนด์สุขภาพและความงามของเหล่าคนดัง เพราะในสหรัฐอเมริกาฯ ยังมีการการทดลองนำ IV Drip นี้มาใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการป่วยร้ายแรงและผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงของโควิด-19 อีกด้วย

 

ประเภทของการทำ Vitamin IV Drip สามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท

  • Shine and Brightening : ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวิตามินและสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้ขาวเรียบเนียนและกระจ่างใส แลดูผิวดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์มากขึ้น
  • Weight Control  : เป็นกลุ่มวิตามินที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย เช่น วิตามินบีรวม, ไรโบฟลาวิน, กรดโฟลิกและไนอะซิน เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ,ลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยเผาผลาญไขมัน ได้อีกด้วย
  • Antioxidant : จะเป็นกลุ่มวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างและฟื้นฟูระบบคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและไวรัสต่างๆ เช่น กลุ่มวิตามินซีที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายใช้เพื่อเสริมการทำงานของ T-lymphocyte บำรุงกระดูก กล้ามเนื้อและหลอดเลือด ทั้งยังมีประโยชน์สำหรับการผลิตคอลลาเจนและการดูดซึมธาตุเหล็กอีกด้วย 
  • Energy Booster : กลุ่มวิตามินที่บี 5 หรือที่เรียกอย่างหนึ่งว่า กรดแพนโทธีนิก,วิตามินบี12 และแมกนีเซียม ช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า ช่วยลดความรู้สึกเมื่อยล้าได้ และช่วยเพิ่มพลังให้กับร่างกาย ลดการสูญเสียน้ำ อาการอ่อนเพลียจากการเจ็บป่วย ทานอาหารไม่ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำหนักพักผ่อนน้อย รวมไปถึงป่วยหลังการผ่าตัดและผู้ป่วยมะเร็ง อีกด้วย

 

ที่ Elite Clinic มีการทำ วิตามินดริปผิว หรือ Vitamin IV Drip แบบใดบ้าง?

  • STARTER สีชมพูเข้ม : ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใสอมชมพู ดูอ่อนเยาว์

  • ESSENTIAL สีส้มเข้ม : วิตามินช่วยดีท็อกซ์สารพิษ ต่อต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ULTIMA สีเหลืองเข้ม : ช่วย Boost ผิวใหม่ ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสขึ้น แบบเร่งด่วน

 

ทำ Vitamin IV Drip ที่ Elite Clinic ดีอย่างไร?

 

✔ ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แบบ 100%

✔ ที่ Elite Clinic เราปรับสูตร วิตามินดริปผิว แบบใหม่ ที่ช่วยเรื่องการบำรุงผิว ที่สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

✔ ให้บริการโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีความชำนาญในการทำ Vitamin IV Drip

✔ อุปกรณ์ที่เราใช้ได้มาตรฐาน สะอาดและปลอดภัย

 

ขั้นตอนการทำ วิตามินดริปผิว หรือ IV Drip มีอะไรบ้าง

การให้วิตามินผ่านสายน้ำเกลือนั้น ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก แต่จะต้องทำโดยคุณหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะจะต้องเจาะสายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือกดำ (IV) ซึ่งหากทำโดยผู้ไม่ชำนาญการ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ไม่ได้มาตรฐานและสะอาดพอ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ โดยขั้นตอนแรกของการทำ Vitamin IV Drip คุณหมอจะทำการซักประวัติและตรวจความพร้อมของร่างกาย เพื่อแนะนำรายละเอียดของวิตามินสูตรต่างๆ ของทาง Elite Clinic ที่คนไข้เลือกหรือให้คุณหมอแนะนำที่เหมาะสมให้เป็นรายบุคคล 

จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการทำ วิตามินดริปผิว ผ่านสายน้ำเกลือทางเส้นเลือด โดยผู้ที่ทำสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ไปด้วยได้เลย โดยจะมีผู้ช่วยคุณหมอเข้ามาดูแลและเช็คความเรียบร้อยอยู่เป็นระยะๆ จนกว่าวิตามินจะหมด จึงทำการถอดสายน้ำเกลือออกและคุณก็สามารถกลับบ้านได้เลย

หากคุณสนใจการทำ Vitamin IV Drip เพื่อช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวพรรณให้ดูขาวกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น หรือแม้กระทั่งการ ดีท็อกซ์สารพิษ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ะกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ที่ Elite Clinic มีสูตร วิตามินดริปผิว ฉบับเร่งด่วน สูตรพิเศษที่เราพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับคุณ ที่โดยคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เฉพาะทางด้าน โดยคุณสามารถสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นหรือขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอได้เพียงแอดไลน์ Line@ 

 

หรือลองศึกษาหาข้อมูลดูรีวิวต่างๆ ก่อนการตัดสินใจทำ คลิกดูรีวิวการทำ Vitamin IV Drip ของ Elite Clinic ที่นี่







แนะนำ

รีจูรัน (Rejuran) คืออะไร? และดีอย่างไร? Elite Clinic มีคำตอบ!

       ช่วงนี้หลายคนน่าจะได้เห็นเหล่าคนดัง บล็อกเกอร์หรือ Influencer ต่างๆ นิยมพากันไปรีวิวการทำหน้าเนียนใสที่เรียกว่า Rejuran ในบทความนี้ Elite Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ รีจูรัน กันอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ

 

Rejuran คืออะไร?

        นวัตกรรมเพื่อการฟื้นฟูผิวหน้าที่เสื่อมสภาพจากมลภาวะต่างๆ อายุที่มากขึ้นและปัญหาริ้วรอยจุดด่างดำบนใบหน้าจากสาเหตุต่างๆ มากมาย โดยการทำ รีจูรัน เป็นสารสกัดจาก Polynucleotide (พลีนิวคลีโอไทด์) หรือ PN แบบเข้มข้นจาก Wild Salmon DNA ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อความงามที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในเกาหลี  รวมถึงประเทศในเอเชียอื่นๆ เช่น สิงคโปร์และประเทศไทยในขณะนี้อีกด้วย

        การฉีด Rejuran Healer ถูกพัฒนาโดย Pharma Research บริษัทยาของเกาหลีในปี 2014 ซึ่งสาร Polynucleotide ได้มาจากการสกัด DNA ของ แซลม่อนป่าซึ่งมีการรับรองจากงานวิจัยมาแล้วว่ามีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด โดยจะมีโครงสร้างสาย DNA ที่มีลักษณะยาว สามารถจับกับ A2A Receptor ในร่างกายมนุษย์ และสามารถกระตุ้นการสร้าง Fibroblast ที่เป็นเส้นใยสำคัญในการสร้างคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังใหม่ ทำให้ผิวหน้าของเราอิ่มฟู ฉ่ำน้ำ กระจ่างใสและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น จึงลดเลือนริ้วรอยทำให้ใบหน้าของเรากลับมามีผิวสุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์ได้

 

Rejuran ทำงานอย่างไร?


เพราะทุกวันนี้มลภาวะในอากาศทั้งความร้อน แสงแดดและฝุ่นควัน ทำให้ผิวหน้าของเราต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้จนทำให้เกิดผิวกร้าน ดำคล้ำและเกิดริ้วรอยต่างๆ ได้ง่าย นอกจากนั้นปัญหาที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ก็ยังมีเรื่องของการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสติกในผิวหนังที่ลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังแท้ของเราบางและขาดความยืดหยุ่น แต่เมื่อฉีด รีจูรัน เข้าสู่ผิวหนังแล้วสาร Polynucleotide (พลีนิวคลีโอไทด์) จะเชื่อมต่อกับเส้นเลือดเล็กๆ ในเซลล์เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ เป็นอันเริ่มกระบวนการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวใหม่ พร้อมกับการสร้างคอลลาเจน คืนความสมดุลของน้ำและน้ำมันให้กับผิวหน้าของคุณ ทำให้ใบหน้าหน้าฉ่ำวาวและรูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

8 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำ Rejuran ที่ Elite Clinic

  1. การทำ รีจูรัน เป็นการเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่ จึงมีประสิทธิภาพมากในการรักษาแผลเป็นจากสิวและกระชับรูขุมขนในผิวของคุณได้ นอกเหนือจากการทำให้สีผิวของคุณสว่างและเรียบเนียนมากขึ้น
  2. Rejuran ช่วยให้เมคอัพติดทนนานมากขึ้น เพราะมีส่วนช่วยในการรักษาผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยรอบดวงตา, ริ้วรอยรอบริมฝีปาก และร่องลึกบนใบหน้า

  3. Polynucleotide (พลีนิวคลีโอไทด์) เป็นสารที่ปลอดภัยมาก มีความคงตัวต่อความร้อน ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายมนุษย์ ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วในการรักษาโครงสร้างผิวหนัง และจะคงอยู่ในผิวหนังได้นานกว่าสารอื่นๆ เพราะเป็นโครงสร้างที่พยุงผิวหน้าของคุณให้คงสภาพดีไว้ นั่นเอง

  4. ทำ รีจูรัน ต้องฉีดกี่ครั้งและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างไรบ้าง? : แนะนำให้ฉีด 4 ครั้งขึ้นไป โดยระยะแรกให้เว้นระยะห่างในการฉีด 2-3 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถเว้นเป็น 3-6 เดือนได้ เพื่อเป็นการรักษาให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้นซึ่งผลลัพธ์ในการฉีดแต่ละครั้ง คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ ดังนี

    • ครั้งที่ 1 ช่วง 3-5 วัน ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม ดูอิ่มน้ำ
    • ครั้งที่ 2 ช่วง 3-4 วัน ผิวเต่งตึงขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น
    • ครั้งที่ 3 ช่วง 4-6 วัน ผิวแน่น ยกกระชับ แข็งแรงขึ้น
    • ครั้งที่ 4 ช่วง 6-8 วัน รู้สึกได้ถึงผิวที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจน

  5.  ปริมาณที่เหมาะสมของการฉีด Rejuran : แนะนำให้ฉีด 2cc. เมื่อใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก แต่การฉีดที่หน้าผากแนะนำให้ฉีด 3cc ต่อครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับรอยย่นที่คอ โดยฉีด 2-4 cc อย่างสม่ำเสมอในบริเวณระหว่างรอยย่น

  6. การทำ รีจูรัน เหมาะกับใครบ้าง?

    ✔ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าจากปัญหาหลุมสิว
    ✔ ผู้ที่มีสภาพผิวเสื่อมโทรม, ผิวแพ้ง่าย, ขาดความชุ่มชื้นหรือเป็นแผล
    ✔ ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
    ✔ ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวแห้งและมักพบปัญหาแต่งหน้าไม่ติด
    ✔ ผู้ที่ต้องการให้ผิวแข็งแรงอย่างเป็นธรรมชาติ
    ✔ ผู้ที่ไม่ต้องการใช้วิธีฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
    ✔ ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณคอ รอบดวงตา และผิวแตกลายที่รักษายาก

  7. การฉีด Rejuran มีผลข้างเคียงหรือไม่? : รีจูรันได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของไทยอย่างถูกต้อง และมีผลรับรองความปลอดภัยจากหลายสถาบัน จึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายมนุษย์ แต่อาจจะต้องระวังการรักษาร่วมกับสารชนิดอื่น และผู้ที่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนทำ มีดังนี้

    • การฉีดร่วมกับสาร Hyaluronic Acid Fillers หรือไขมันที่ฉีดเข้าไป อาจทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงได้
    • ผู้ที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs สารยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยากดภูมิคุ้มกัน
    • ผู้ที่มีการตอบสนองที่ไวต่อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ สารโซเดียม โพลีนิวคลีโอไทน์ (Sodium Polynucleotide)
    • ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้, โรคแพ้ภูมิตัวเอง , โรค Sarcoidosis granulomatous pathology, โรคเยื่อบุโพรงหัวใจอักเสบ
    • ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้ออยู่
    • ผู้ที่รับประทานวิตามินประเภท Primrose oil, Garlic, Ginseng  หรือ Vitamin E

  8. จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น Rejuran แท้ 100% : จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น Rejuran แท้ 100% : วิธีสังเกตุของแท้คือจะต้องมีSticker Hologram ที่ข้างกล่อง และสามารถสแกน QR code ที่ Sticker Hologram เพื่อเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์หรือหน้าเพจที่แสดงข้อมูลของตัวแทนจำหน่าย โดยข้างกล่องจะมีฉลาก อย.ไทย และในกล่องจะมี 2 ไซริงค์ พร้อมเข็มขนาดเล็ก

 

หากคุณสนใจการทำ Rejuran ที่จะมั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้ 100% กับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เฉพาะทางด้านความงามอย่างครบวงจร ที่ Elite Clinic และไม่ใช่แค่การทำ รีจูรัน เท่านั้น แต่การเสริมความงามในด้านอื่นๆ เช่น การทำฟิลเลอร์ หรือโบท็อกซ์ คุณหมอของเราก็มีความชำนาญเช่นเดียวกัน โดยคุณสามารถสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นหรือขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอได้เพียงแอดไลน์ Line@ 

หรือลองศึกษาหาข้อมูลดูรีวิวต่างๆ ก่อนการตัดสินใจทำ คลิกดูรีวิวการทำ Rejuran ของ Elite Clinic ที่นี่

แนะนำ

เทคนิคเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้หน้าตึงกระชับ ที่ Elite Clinic

        ใครๆ ก็รู้ว่า ตำแหน่งบนใบหน้าที่แสดงให้เห็นถึงอายุที่มากขึ้นของคุณได้ชัดเจนจุดหนึ่งก็คือ ‘บริเวณร่องแก้ม’ หรือบางคนเรียกว่าร่องน้ำหมากที่หากเกิดขึ้นแล้วและสามารถเห็นได้ชัดเจน ภาพรวมของใบหน้าคุณจะดูแก่ขึ้นทันที ฉะนั้น วิธีการแก้ปัญหาร่องแก้มหรือร่องน้ำหมากที่นิยมมากที่สุดก็คือ การ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม นั่นเอง

ปัญหาร่องแก้มหรือร่องน้ำหมากเกิดจากสาเหตุอะไร?

 

Mid Cheek Groove หรือ Nasolabial Fold คือปัญหาร่องแก้มร่องน้ำหมากที่สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังจึงผลิตได้น้อยลงจึงทำให้เกิดปัญหาหย่อยคล้อยตามจุดต่างๆ ตามมา รวมถึง ปริมาณกระดูกบริเวณใต้ตาและร่องแก้มลดลงด้วย ส่งผลให้ไขมันและเอ็นในบริเวณแก้มและตาหย่อนลง ทำให้เกิดถุงใต้ตา มุมปากตกและแก้มห้อยย้อยลงมา จนเกิดเกิดร่องระหว่างแก้มและมุมปาก ปัญหาร่องแก้มร่องน้ำหมากจึงตามมา ทำให้คุณใช้ชีวิตด้วยความไม่มั่นใจ เพราะนอกจากเป็นสัญญาณของความแก่แล้ว ยังทำให้ใบหน้าของคุณมีสีหน้าที่เศร้าไม่สดใสอีกด้วย การ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้

 

นอกจากนั้นเรื่องของอายุที่มากขึ้นแล้ว ปัญหาร่องแก้มร่องน้ำหมาก ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้ เช่น 

  • ใช้กล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มทำงานมากเกินไป เช่น พฤติกรรมชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง หรือการกินอาหารที่มีความเหนียวบ่อยๆ
  • มีไขมันบริเวณแก้มเยอะมากเกินไป
  • ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น จนเห็นเป็นรอยพับบริเวณร่องแก้มเวลายิ้ม
  • กล้ามเนื้อบริเวณแก้มไม่แข็งแรงจึงหย่อนง่ายและเร็วกว่าที่ควรเป็น 

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม (Mid Cheek Groove Filler) คืออะไร?

 

อย่างที่ทราบกันดีกว่าฟิลเลอร์ก็คือการเติมเต็มชนิดหนึ่งชื่อว่า Hyaluronic Acid ที่ค่อนข้างปลอดภัย (ถ้าเป็นของแท้) เพราะไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่มีอยู่ในผิวหนังของเราอยู่แล้ว เมื่อฉีดเข้าผิวหนังของเราแล้วร่างกายยจึงไม่เกิดการต่อต้าน จึงมีโอกาสเกิดการแพ้ได้น้อยมากๆ อีกทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และเมื่อฉีดฟิลเลอร์จะเข้าไปแล้วก็จะช่วยเติมจุดที่เป็นร่อง, รอยพับหรือย่นให้กลับมาตึงกระชับได้ดังเดิม 

 

ของดีของการ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ Elite Clinic มีอะไรบ้าง?

✔ ช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้มร่องน้ำหมาก ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย

✔ ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยหรือบริเวณที่หย่อนคล้อยให้กระชับและตื้นขึ้น

✔ ช่วยให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ชุ่มชื้นขึ้น เพราะฟิลเลอร์ที่ช่วยกักเก็บน้ำที่ผิวหนังไว้ได้ 

✔ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ใต้ผิวหนัง

✔ สามารถเห็นผลในทันทีและจะชัดเจนมากขึ้นใน 7-14 วัน

✔ ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นยาวๆ และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้า

✔ การฉีดฟิลเลอร์แท้จะมีความปลอดภัยและสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่เสี่ยงต่อการแพ้

 

การ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมากลึก
  • ผู้ที่มีปัญหากระดูกใต้ตาและร่องแก้มลดลง จนเกิดร่องแก้มลึก
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ตึง เรียบเนียนมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มทำงานมากเกินไป

 

การ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ที่ Elite Clinic จะแบ่งขั้นตอนออกเป็น 3 ช่วงหลักๆ ดังนี้

1. การเตรียมก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ : คุณหมอจะทำการประเมินปัญหาร่องแก้มของคุณ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแนะนำวิธีการแก้ไขที่ตรงจุดและได้ผลดีมากที่สุด สิ่งที่คุณควรเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรงดและหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ เหล่านี้

    • งดยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด พร้อมทั้งยาแก้ปวดทั้งแอสไพรินและ NSAIDS ก่อนการฉีด 1 สัปดาห์
    • งดการทายาที่มีผลต่อการผลัดเซลล์ผิวในบริเวณแก้มและใต้ตา ก่อนการฉีด 1 สัปดาห์
    • งดอาหารรสเผ็ดและเค็มจัด เพราะมีผลกับระบบหมุนเวียนโลหิต ก่อนการฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 – 3 วัน
    • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด  เช่น การออกกำลังกาย ก่อนการฉีด 1 วัน

2. ขั้นตอนระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ : คุณหมอจะทำการฆ่าเชื้อบริเวณร่องแก้ม, โหนกแก้มและใต้ตา รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง จากนั้นคุณหมอจะทำการฉีดยาชาเฉพาะบริเวณที่จะฉีดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที เมื่อยาชาออกฤทธิ์คุณหมอจะเริ่มฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ด้วยเทคนิคพิเศษของ Elite Clinic ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาร่องแก้มร่องน้ำหมากให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเข้ากับรูปหน้าของแต่ละบุคคล 

3. หลังการฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว : เมื่อฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่ต้องการแล้ว คุณหมอจะทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดอีกครั้ง จากนั้นคุณหมอจะปล่อยให้คุณพักประมาณ 10-15 นาที เพื่อดูปฏิกิริยาหลังการฉีดว่าตำแหน่งที่ฉีดจะมีอาการบวมหรือไม่ หากเกิดการบวมคุณหมอจะประคบน้ำแข็งให้ เพราะคุณไม่ควรประคบเองเนื่องจากอุณหภูมิมีผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ และน้ำหนักในการลงแรงกดประคบที่มากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนไปที่เนื้อเยื่ออื่นได้

เมื่อกลับถึงบ้านแล้วคุณควรดูแลตัวเองหลังการ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ตามข้อปฏิบัติดังนี้

งดการออกไปเจอกับแสงแดด หลังการฉีดฟิลเลอร์ 2-3 วัน เพราะผิวบรเวณที่ฉีดนั้นจะไวต่อแสงแดดและความร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเซ็ตตัวของฟิลเลอร์ด้วย

  • หลีกเลี่ยงการจับ, สัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2-3 วัน เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนและอาจทำให้บริเวณที่ฉีดเกิดรอยช้ำได้
  •  งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีดฟิลเลอร์ 2-3 วัน
  • งดการรับประทานยา อาหารเสริมหรือสมุนไพร ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 สัปดาห์
  • งดการออกกำลังกายใดๆ ที่จะทำให้เลือดสูบฉีดมากกว่าปกติ
  • งดทานอาหารรสจัด, อาหารหมักดอง, อาหารสุกๆ ดิบๆ  ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและกระตุ้นการอักเสบได้
  • งดการเลเซอร์บริเวณใบหน้าหรืออยู่ในห้องซาวน่า หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ

หากคุณสนใจการทำ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การศึกษาข้อมูลความน่าเชื่อถือของคุณหมอและคลินิกแต่ละที่ให้แน่ใจว่า เป็นคลินิกที่ได้มาตฐาน คุณหมอที่ฉีดก็จะต้องมีประสบการณ์ และ Filler ที่ใช้จะต้องเป็นของแท้ 100% เพื่อความปลอดภัยของคุณและผลลัพธ์การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด ซึ่งที่ Elite Clinic เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางด้านความงามอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการฉีด Filler ที่ช่วยปรับใบหน้าของคุณให้ดูอ่อนเยาว์ ไร้ร่องลึกและริ้วรอยกวนใจได้อย่างดีเยี่ยม โดยคุณสามารถสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นหรือขอรับคำปรึกษาจากคุณหมอได้เพียงแอดไลน์ Line@ 

หรือลองศึกษาหาข้อมูลดูรีวิวต่างๆ ก่อนการตัดสินใจทำ คลิกดูรีวิว ฉีดฟิลเลอร์ ของ Elite Clinic ที่นี่