เมนู

เมนู

เสริมคาง ด้วยซิลิโคน หรือฉีดฟิลเลอร์?

การ เสริมคาง ทั้งการเสริมด้วยซิลิโคน หรือการเติม HA Filler ปรับแต่งรูปคางนั้น ก็สามารถทำให้คางที่มีปัญหาคางผิดรูป หรือเพิ่มมิติ สัดส่วนให้ใบหน้าสวยงามขึ้นได้ ทั้งสองวิธี มีจุดเด่นในการรักษาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ให้การรักษา หรือจุดประสงค์ของการแก้ไขของคนไข้แต่ละเคสด้วย

ข้อควรรู้ : เกี่ยวกับการเสริมคางด้วยซิลิโคน

  1. เสริมคางด้วยซิลิโคน ทำครั้งเดียว ต่างจากเติมด้วยฟิลเลอร์ ที่ต้องเติมเมื่อเนื้อฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวไปตามธรรมชาติ
  2. ซิลิโคนคางมีหลายขนาด ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์
  3. แผลนอกแผลใน มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป ควรศึกษาข้อมูลก่อนทำศัลยกรรม
  4. การเสริมด้วยซิลิโคนจะคงรูป ไม่มีการเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงไปตามกาลเวลา
  5. รูปคางของคนไข้มีลักณะแตกต่างกันไป ซิลิโคนที่นำมาเสริม ต้องมีการเหลา หรือปรับขนาด องศา ตามปัญหาของคางแต่คน เช่นเดียวกับการเสริมจมูก
  6. การสัมผัสเนื้อซิลิโคนหลังเสริมคาง จะรู้สึกความเป็นธรรมชาติ เป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อคางน้อยกว่าการเสริมด้วย HA ฟิลเลอร์

ข้อควรรู้ : เกี่ยวกับการเสริมคางด้วย HA Filler

  1. ปริมาณตัวยา อาจจะแตกต่างกันไปตามปัญหาของแต่ละคน ส่วนมากใช้ 1-2 CC หากเปรียบเทียบกันแล้วราคาอาจจะสูงกว่าการเสริมด้วยซิลิโคน
  2. จะต้องได้รับการเติมฟิลเลอร์ซ้ำ เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายตัว (ส่วนมากปีละ 1 ครั้ง)
  3. การสัมผัสจะให้ความเป็นธรรมชาติ เป็เนื้อเดียวกับผิวมากกว่าการเสริมด้วยซิลิโคน
  4. ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลื่อนตัวของซิลิโคน แม้นั่งเท้าคาง หรือกระแทก
  5. ใช้เวลารักษา น้อยกว่าการเสริมคาง และไม่ต้องพักฟื้น
  6. หากรูปคางไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง สามารถปรับแก้ไขได้ง่ายกว่าการเสริมซิลิโคน

ปัญหารูปคาง ที่ควรได้รับการศัลยกรรม

คางสั้น

ลักษณะของคางสั้นคือ มีปลายคาง ที่ใกล้ริมฝีปากมากเกินไป เกิดจากโครงสร้างกระดูกกราม หรือขากรรไกร ที่สั้น ส่วนมากถูกถ่ายทอดกันทางพันธุกรรม แต่แก้ไขด้วยการเติมฟิลเลอร์ หรือเสริมซิลิโคนให้ยาวขึ้นได้

คางบุ๋ม

ลักษณะของคางบุ๋ม คือ รูปคางมีความผิดปกติจากเดิม ตรงที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของปลายคาง หุบขึ้นด้านบน ทำให้เกิดเป็นร่อง อาจเกิดความโครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อดึงรั้งผิดปกติ หรือจากการประสบอุบัติเหตุ ทำให้คางมีลักษณะก้นลูกแอปเปิ้ล ทำให้หน้าดูผิดรูป ไม่สวยงาม

คางตัด

ลักษณะของคางตัด คือ การที่รูปกระดูก หรือกล้ามเนื้อบริเวณปลายคาง มีองศาระนาบไปกับพื้น ทำให้ดูหน้าเหลี่ยม มีวีเชฟ ส่งผลให้อารมณ์ของใบหน้าดูขึงขัง สำหรับผู้ชายอาจจะไม่น่ากังวลมากนัก แต่สำหรับผู้หญิงใบหน้าจะดูอ่อนหวานน้อยลง

คางยื่น

ลักษณะของคางยื่น คือ กระดูกปลายคาง หรือขากรรไกรดันยาวไปข้างหน้า ส่งผลให้รูปคาง มีการยื่นเลยสัดส่วนของใบหน้าไป มักเห็นได้ชัดเมื่อมองจากด้านข้าง โดยปัญหาคางยื่น ในบางรายอาจจะส่งผลแค่ลักษณะภายนอก แต่บางรายส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร หรือการสบฟัน

เสริมคาง มีซิลิโคน แบบไหนบ้าง?

แบบที่ 1 ซิลิโคนแบบสั้น

  1. เหมาะสำหรับเคสที่ต้องเน้นเฉพาะบริเวณปลายคางให้ยาวขึ้น
  2. พื้นฐานโครงสร้างคางดีอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้สัดส่วนใบหน้าดูยาวขึ้น
  3. ซิลิโคนขนาดเล็กสุด แต่เข้ารูปกับกระดูกปลายคางได้ดี
  4. เนื้อซิลิโคนนิ่ม-ปานกลาง

แบบที่ 2 ซิลิโคนขนาดกลาง (NON ANATOMICAL)

  1. สามารถเพิ่มความยาวของคางได้มากขึ้น ตัวซิลิโคนหนา และมีขาที่กว้างกว่าแบบแรก
  2. เหมาะสำหรับผู้ที่มีคางสั้น คางตัด ที่ต้องการมิติของใบหน้า
  3. เนื้อซิลิโคนขาวขุ่น นิ่ม ยืดหยุ่น
  4. สัมผัสหลังเสริมคางรู้สึกเป็นธรรมชาติ

แบบที่ 3 ซิลิโคนขายาว (ANATOMICAL)

  1. เสริมคาง ที่ครอบคลุมถึงรอยต่อแนวกราม กรอบหน้า
  2. ซิลิโคนเนื้อค่อนข้างแข็ง เน้นคงรูป เป็นทรงมากกว่าแบบอื่น
  3. เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางตัด คางเหลี่ยมมากที่สุด
  4. ใช้เวลาในการปรับทรงนานกว่าปกติ หากไม่ได้รูป จะเห็นรอยต่อซิลิโคนกับแนวกรามชัดเจน ดูไม่เป็นธรรมชาติ

คางสไตล์ผู้หญิง ผู้ชายแตกต่างกันไหม

คาง เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของใบหน้าของคนเรา ดังนั้นทรงของคาง หลังเสริม หรือศัลยกรรมจะต้องเหมาะกับเพศ หรือโครงหน้าของแต่ละคน หากศัลยแพทย์ละเลยจุดดนี้ อาจจะทำให้รูปหน้า มิติใบหน้า อารมณ์ใบหน้า โดยรวมของคนไข้ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

ผู้ชาย : หากทรงรูปคางเดิม หรือหลังศัลยกรรม แหลมเกินไป อาจจะทำให้ใบหน้าดูหวาน ดูไม่แมนได้ ควรมีลักษณะโค้งมน จะได้หน้าที่ดูเป็นรูปไข่ อารมณ์ของใบหน้ากลางๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความต้องการของแต่ละบุคคล

ส่วนน้อยมากที่รูปคางเดิมแหลม หรือโค้งได้รูปดีอยู่แล้ว อยากจจะทำเสริมคางให้ป้านขึ้น เหลี่ยมขึ้น เพื่อให้ดูแมน อารมณ์ใบหน้าสไตล์ฝรั่ง แต่หากต้องการก็สามารถแก้ไขด้วยการเสริมคางได้เช่นเดียวกัน

ผู้หญิง : รูปคางที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงนั้น ได้รับความนิยมให้ยาว เรียว รูปหน้าเป็นตัววีเชฟ เหมือนสาวเกาหลี แต่ไม่ควรยาวลงข้างล่างมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูแปลก (หรือที่ชอบเรียกกันว่า คางแม่มด) สำหรับผู้หญิง นอกจากด้านหน้าแล้ว ต้องดูทรงคางจากด้านข้างด้วย หลังทำต้องดูเป็นธรรมชาติ สวยครบ 360 องศา

ข้อควรพิจารณะก่อนเสริมคาง : เสริมคางทำให้ใบหน้าดูเรียว ยาวขึ้นจริง แต่คนไข้มักคาดหวังว่าเสริมคางอย่างเดียวแล้วทุกอย่างจะออกมาดี แต่ปัญหาใหญ่ที่มักพบกับคนไข้หลายเคสคือ มีปัญหากรามที่ใหญ่ และโหนกแก้มที่สูง เป็นอุปสรรคสำคัญในการปรับรูปหน้าให้เข้ารูป หรือหน้าเรียว ดังนั้น ควรปรึกษาอารมณ์ใบหน้าโดยรวม ก่อนทำศัลยกรรมทุกครั้ง

เสริมคาง แผลนอกหรือแผลใน แบบไหนดีกว่า?

การเตรียมตัว ก่อน-หลัง ศัลยกรรมเสริมคาง

ก่อนการรักษา

  • งดการใช้ยาบางชนิด ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน บรูโรเฟน พอนสแตน หรือสมุนไพรบางชนิดที่จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
  • ควรแจ้งโรคประจำตัวอย่างละเอียด ไม่ปกปิดประวัติทางการรักษาโรค เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ หรือแพ้ยา
  • หากมีปัญหาเคยผ่าตัดที่เกี่ยวกับกระดูกขากรรไกร หรือตกแต่งคาง ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรรักษาทราบ
  • รับประทานอาหารให้อิ่ม เพราะหลังเสริมคางอาจจะทานอาหารลำบากในมื้อถัดไป
  • บ้วนปากา แปรงฟัน ให้สะอาด ก่อนรับบริการเสริมคาง (กรณีแผลใน)

หลังการรักษา

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการทำความสะอาดแผล และการบ้วนปาก (กรณีแผลใน)
  • งดกิจกรรม ออกกำลังกาย ที่มีความเสี่ยงต่อการกระแทกของคาง
  • รับประทานยาลดบวม ตามแพทย์สั่ง
  • งดแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  • นอนศีรษะสูง เพื่อมิให้เลือดคั่งบริเวณรอยแผล ทำให้แผลหายช้ำได้เร็วขึ้น